โรคพิษสุนัขบ้าคืออะไร ?
โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ
เป็นโรคติดต่อร้ายแรงชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ เรบีส์ ไวรัส (Rabies)
ทำให้เกิดโรคได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น คน สุนัข แมว ลิง ชะนี
กระรอก ค้างคาว ฯลฯ โรคนี้เมื่อเป็นแล้วจะทำให้มีอาการทางประสาท
โดยเฉพาะระบบประสาทส่วนกลาง และถ้าเป็นแล้วเสียชีวิตทุกราย
ในปัจจุบันยังไม่มียาอะไรที่จะรักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้
|
เชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies)
|
คนติดโรคพิษสุนัขบ้าจากทางใดได้บ้าง ?
คนเป็นโรคพิษสุนัขบ้าเนื่องจากได้รับเชื้อโรคพิษสุนัจบ้าจากสัตว์ที่เป็นโรค
คนสามารถติดโรคจากสัตว์เหล่านี้ได้ 2 ทางคือ
1. ถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัด เชื้อไวรัสจากน้ำลายของสัตว์ที่เป็นโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลที่ถูกกัด
2. ถูกสัตว์ที่เป็นโรคเลีย
โดยปกติคนถูกสัตว์ที่เป็นโรคเลีย จะไม่ติดโรคจากสัตว์เหล่านั้น
นอกเสียจากว่าบริเวณที่ถูกเลียจะมีบาดแผลหรือรอยถลอกหรือรอยขีดข่วน
โดยคนนั้นไม่ได้สังเกต
ในกรณีนี้จะทำให้สามารถเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้
รวมทั้งถูกเลียที่ริมฝีปากหรือนัยน์ตา
|
|
|
คนที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า
จะมีอาการอย่างไร ?
ในระยะ 2-3 วันแรก อาจมีไข้ต่ำ ๆ
ต่อไปจะมีอาการเจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
คันหรือปวดแสบปวดร้อนตรงบริเวณแผลที่ถูกกัด ทั้ง ๆ
ที่แผลอาจหายเป็นปกติแล้ว ต่อไปจะมีอาการตื่นเต้นง่าย
กระสับกระส่าย ไม่ชอบแสงสว่าง ไม่ชอบลม และไม่ชอบเสียงดัง
กลืนลำบาก แม้จะเป็นของเหลวหรือน้ำ เจ็บมากเวลากลืน
เพราะการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืน
แต่ยังมีสติพูดจารู้เรื่อง ต่อไปจะเอะอะมากขึ้น
และสุดท้ายอาจมีอาการชัก เป็นอัมพาต หมดสติ และเสียชีวิต
เนื่องจากส่วนที่สำคัญของสมองถูกทำลายไปหมด
|
|
|
ข้อควรปฏิบัติภายหลังจากถูกสุนัขบ้าหรือสัตว์ที่สงสัยว่าบ้ากัด
1. ล้างแผลทันทีด้วยน้ำสะอาด ฟอกด้วยสบู่ 2-3
ครั้ง แล้วทาแผลด้วยน้ำยาพิวิดีน (เบตาดีน) หรือแอลกอฮอล์ หรือทิงเจอร์
ไอโอดีน แล้วรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที
2. ถ้าสุนัขตายให้นำซากมาตรวจ
ถ้าหากสุนัขไม่ตายให้ขังไว้ดูอาการ 10 วัน
ขณะเดียวกันให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
ส่วนการรักษาทางสมุนไพรหรือแพทย์แผนโบราณไม่สามารถป้องกันโรคได้
ไม่ควรรอดูอาการสุนัข เพราะอาจสายเกินไปที่จะฉีดวัคซีน
3. ในกรณีที่ติดตามสัตว์ที่กัดไม่ได้ เช่น
เป็นสัตว์ป่า สัตว์จรจัด สัตว์กัดแล้วหนีไป หรือจำสัตว์ที่กัดไม่ได้
จำเป็นต้องรับการฉีดวัคซีน
4.
ผู้ที่ต้องมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าคือ มีบาดแผล
ไม่ว่าจะเป็นรอยช้ำเขียวหรือมีเลือดไหล แผลถลอกหรือแผลลึก
รวมทั้งผู้ที่ถูกสุนัขเลียที่นัยน์ตา ริมฝีปาก และผิวหนังที่มีแผลถลอก
ส่วนในกรณีที่ถูกเลียผิวหนังที่ไม่มีแผลหรือเพียงแต่อุ้มสุนัขไม่สามารถจะติดโรคได้
วัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
เนื่องจากในปัจจุบันเราใช้วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าชนิดที่ทำจากเซลล์เพาะเลี้ยง
(ฉีด 5 ครั้งเท่านั้น) เพราะมีประสิทธิภาพสูง
ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ต่อระบบประสาท และควรฉีดเซรุ่มร่วมด้วย
ถ้าบาดแผลมีเลือดออก ถูกเลียที่ริมฝีปาก น้ำลายกระเด็นเข้าตา
สถานเสาวภาใช้โปรแกรมการฉีดวัคซีน 2 แบบคือ
แบบปกติฉีดเข้ากล้ามเนื้อ และแบบประหยัดฉีดเข้าชั้นผิวหนัง
แต่ละแบบจะได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด 5 ครั้ง
เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นอย่างไร ?
เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นเซรุ่มส่วนของน้ำใสของเลือดที่ได้จากบ้าหรือคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า
ในเซรุ่มจะมีโปรตีนที่ทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าในปริมาณที่มาก
เซรุ่มจะไปทำลายเชื้อไวรัสในร่างกายของผู้ที่ถูกสุนัขบ้ากัด โดยการฉีดรอบ ๆ
แผลก่อนที่จะก่อโรค และก่อนที่ภูมิต้านทานของร่างกายจะสร้างขึ้น
ด้วยเหตุนี้การให้เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าร่วมกับการฉีดวัคซีนเข็มแรก
จึงเป็นวิธีที่จะป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้ผลดีที่สุด
แต่เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามีราคาแพงมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทำมาจากเลือดคน ดังนั้นสถานเสาวภาจึงได้ดำเนินการผลิตเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจาดเลือดม้า
และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
ได้ผลิตเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจากเลือดคน เพื่อใช้เองภายในประเทศ
โดยขอรับบริจาคโลหิตจากคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าครบแล้ว
และต้องการเข้าโครงการเพื่อทำบุญ กรุณาติดต่อ
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
ทุกวันเวลาราชการ
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบป้องกันล่วงหน้า
สามารถฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า
เป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อต่อต้านโรคพิษสุนัขบ้า โดยการฉีดเพียง 3
เข็ม ภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งวัคซีนนี้สามารถฉีดได้ไม่จำกัดอายุ
โดยเฉพาะเด็กที่มักเล่นกับสัตว์และมีโอกาสถูกสัตว์กัด มักมีบาดแผลที่รุนแรง
บริเวณใบหน้า ศีรษะ หรือถูกเลียมือที่มีแผลหรือที่ปาก
โดยไม่บอกให้ผู้ปกครองทราบ
หรือควรฉีดป้องกันในบุคคลทั่วไปที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข
แมว เป็นต้น
ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า
1. เมื่อถูกสัตว์กัด การฉีดวัคซีนกระตุ้นเพียง
1-2 เข็ม ร่างกายก็จะได้ภูมิต้านทานที่สูงพอจะป้องกันโรคอย่างได้ผล
2. ไม่เสี่ยงต่อการแพ้เซรุ่ม
หรือเจ็บปวดจากการฉีดเซรุ่มรอบ ๆ แผล
สัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าจะมีอาการอย่างไร ?
พบได้ 2 แบบคือ
1. แบบดุร้าย มีอาการหงุดหงิด
ไล่กัดคนและสัตว์อื่น ๆ ถ้าผูกโซ่หรือกักขังไว้ในกรง จะกัดโซ่ กรง
หรือสิ่งของที่อยู่ใกล้อย่างดุร้าย
บางครั้งสุนัขจะกัดจนฟันหักหรือลิ้นเป็นแผล มีเลือดออก
เมื่อแสดงอาการดุร้ายได้ 2-3 วัน ก็จะอ่อนเพลียลง ขาหลังไม่มีแรง เดินโซเซ
และตายในที่สุด
2. แบบเซื่องซึม มีอาการปากอ้าหุบไม่ได้
ลิ้นมีสีแดงคล้ำ บางครั้งมีสิ่งสกปรกติดอยู่และลิ้นห้อยออกมานอกปาก
มีอาการคล้ายกระดูกติดคอ โดยเจ้าของมักจะเอามือล้วงแต่ไม่พบกระดูก
สุนัขจะเอาขาหน้าตะกุยบริเวณแก้มปากและคอบวม สุนัขจะลุกนั่ง ยืน
และเดินไปมาบ่อย ๆ กินของแปลก ๆ เช่น ใบไม้ ก้อนหิน
หรือบางตัวจะกินปัสสาวะของตัวเอง ไม่กัด ถ้าไม่ถูกรบกวน
สุนัขแบบหลังนี้จะสังเกตอาการยากมาก ดังนั้น หากสุนัขตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
ควรตัดหัวไปพิสูจน์ก่อน