Holiday-Tourismthailand

การจัดการการตลาดแนวใหม่

Custom Search

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เทคนิคการจูบ ที่ทำให้รู้สึกดี


วิธีทำให้เขาเก่งขึ้น

บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวอย่างเศร้าๆ ว่า ผู้ชายจำนวนมากชอบรัวสากจนครกแทบแตกอย่างหน้ามืดตามัวแบบนี้แหละ “ผู้ชายส่วนใหญ่มี SEX ในแบบเดียวกับที่พวกเขาสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง” ดร. เอวา เคเดลล์ กล่าว

แต่ข่าวดีก็คือ อาการรัวสากนั้นรักษาได้ เคเดลล์บอก “ผู้ชายรับการแนะนำได้ดี ดังนั้นคุณจึงสามารถนำพาเขาไปสู่เทคนิคการบรรลุจุดสุดยอดอย่างเป็นมิตรได้โดยไม่ทำร้ายอัตตาของเขา”

ควบคุมด้วยท่า

วิธีที่ง่ายที่สุดในการระงับยับยั้งนักรัวสากก็คือมี SEX ในท่าที่เขาไม่สามารถกระแทกกระทั้นคุณได้ตามใจชอบ ผู้หญิงอยู่บน คือ ทางเลือกหนึ่ง ท่านี้คุณจะเป็นผู้ควบคุมความถี่ได้โดยสิ้นเชิง

อีกท่าก็คือ การกอดจูบลูบไล้ แต่มีคำเตือนอยู่ข้อหนึ่ง คือ ท่านี้เขามีเสรีภาพในการปฏิบัติมากขึ้น ดังนั้นการจะควบคุมจังหวะย่างก้าวของเขาก็ให้คุณกำองคชาตของเขาไว้เบาๆ และบอกเขาว่า คุณต้องการใช้มันเหมือนมันเป็น VIBRATOR เท่านี้เขาก็เหมือนลูกไก่ในกำมือคุณแล้ว จะบีบจะคลายก็ไม่ตาย มีแต่สนุก

ควบคุมด้วยคำพูด

ถ้าคุณตกอยู่ในท่าที่นักตำพริกแกงสามารถรัวสากได้สะดวก เช่น ท่า MISSIONARY (ผู้ชายอยู่บน) หรือท่าเจ้าตูบ คุณก็ต้องใช้คำพูดควบคุมการปฏิบัติของเขา

“ก่อนเขาจะเข้าไปในตัวคุณ ให้บอกเขาว่าคุณจะมีความสุขมากเลย ถ้าเขาทำอย่างช้าๆ” ดร. เคเดลล์ แนะ

ด้วยเหตุที่คุณไม่ได้พูดประโยคนี้เพื่อตำหนิในสิ่งที่เขาทำไปแล้ว เขาจึงไม่ถือว่าเป็นการตัดพ้อต่อว่าเขา ถ้าเขาเร่งจังหวะขึ้นมาอย่างกะทันหัน คำพูดอย่าง “ใจเย็นๆ สิคะ จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน” (แบบอิ๊กคิวซังน่ะแหละ) ก็จะเป็นคำพูดขำๆ ที่ไม่เหมือนการตำหนิติเตียน แต่เป็นการเตือนอย่างนิ่มๆ ให้เขาเรียกสติกลับมาได้ทัน

ใช้การประนีประนอม

ความแรงและเร็วทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่รู้สึกดีสุดๆ เช่นเดียวกับที่คุณผู้หญิงเกร็งจนนิ้วเท้างอหงิกในบางท่า
ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าพวกคุณทั้งคู่มีความพึงพอใจอย่างแท้จริง ก็ให้ระลึกไว้ว่า บางครั้ง บางจังหวะ การรัวสากก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เช่น หลังจากคุณถึงจุดไคลแม็กซ์เรียบร้อยแล้ว หรือกำลังจะถึงพอดี
“บอกเขาว่าคุณต้องการเริ่มต้นในท่าโปรดของคุณ และเสร็จในท่าของเขา” เคเดลล์กล่าว

ในช่วงเวลาแห่งการเข้าสู่จุดสุดยอดนั้น คุณแทบไม่เหลือสติพอที่จะจับสังเกต 2-3 นาทีสุดท้ายของอาการ “ตับ-ตับ-ตับ” ได้หรอก

เพราะฉะนั้น การรัวสากตอนใกล้เสร็จ จึงเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรขัดใจเขา เพราะคุณเองก็ชอบด้วย ไม่ใช่หรือ...





เชื่อว่าหลาย ๆ คู่ ทั้งเค้าและคุณคงต้องการและสรรหาเทคนิคการจูบดี ๆ กันอยู่ใช่ไหมล่ะ เอาล่ะวันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาฝากคู่ที่กำลังค้นหาเทคนิคการจูบปากที่จะช่วยให้คุณทั้งคู่ได้ใช้เวลาที่ดีต่อกันและได้รู้สึกถึงความรักใคร่ผ่านเทคนิคการจูบแบบดูดดื่ม ที่เรากำลังจะแนะนำ หากคุณอยากบอกรักผ่านจูบ ก็ต้องลองเทคนิคการจูบที่ทำให้รู้สึกดีนี้เลยค่ะ

1. จูบเลยจูบดังด๊วบ ๆๆ

เสียงกิจกรรมระหว่างแลกจูบเนี่ยฟังแล้วเสียวไปถึงไส้ติ่งท่อนปลายทีเดียว แต่ใช่ว่าแค่อ้าปากแล้วก็เสียวซ่าอ้าส์ๆๆ กันได้ทุกคน ที่สำคัญคุณต้องเข้าใจก่อนว่า การจูบคือการที่ต่างคนต่างก็ได้แสดงบทบาทของการเป็นผู้นำและผู้ตามความหฤหรรษ์ทางปลายลิ้นกันอย่างเท่าเทียม ดังนั้นเมื่อเขาปล่อยลิ้นออกมาอย่าเอาแต่เคลื่อนลิ้นไปตรงนั้นตรงนี้โดยไม่สนใจที่จะเข้าไปทำความรู้จักลิ้นของเขาทางที่ดีควรเล่นลิ้นกับเขาถ้าอยากเคลื่อนไปตรงไหนก็ช่วยพาลิ้นของเขาให้ตามลิ้นคุณไปด้วย อาจจะดูดลิ้นเขาบ้างเบา ๆ แต่อย่าดุนลิ้นลงคอเขาเพราะมันใช่ชักโครก และลิ้นคุณก็ไม่ใช่แปรงลวดที่จะต้องสำรวจอย่าง Hard Core ค่อย ๆ ทำความรู้จักด้วยสัมผัสที่นุ่มนวลดีกว่า

2. จูบแบบเคาะประตูยู้ฮูที่รัก

รอยจูบแบบนี้เป็นการเอาอกเอาใจซึ่งกันและกันเหมาะสำหรับใช้เป็นบทเริ่มต้นหรือสำหรับมือใหม่หัดจูบ เพราะมันเป็นการจูบแบบเสียดสีด้วยปากเฉพาะภายนอกเพื่อกระตุ้นเซลล์ประสาทบนริมฝีปากให้ตื่นตัวเหมือนการเคาะประตู โก่งคอเรียกชู้รักเริ่มด้วยคุณจูบริมฝีปากบนของเขาและเขาจูบริมฝีปากล่างของเขาจากนั้นให้ใช้ริมฝีปากถูไถกันไปมาสลับกับจุ๊บกันเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาให้ปั่นป่วนเล่น จากนั้นก็สลับกันคุณจูบริมฝีปากล่างเขาบ้างและเขาก็จูบริมฝีปากบนของคุณและอาจเสริมการดูดปากที่ภายนอกจะทำให้เลือดแล่นมาเลี้ยงที่ริมฝีปากและจะทำให้เกิดความอบอุ่นอ่อนไหวอย่างบอกไม่ถูก

3. จูบแบบอสรพิษ...ซี๊ด สวรรค์!

นี่เป็นการจูบในระดับที่สองเหมาะสำหรับคนที่เริ่มสนิทสนมหรือสำหรับคนที่ชอบความเร่าร้อนพอ ๆ กัน เสน่ห์อยู่ที่การให้จุมพิตบางเบาเหมือนสัมผัสแห่งผ้าต่วนที่สะบัดไหวเคลียริมฝีปากที่จะทำให้เขาสั่นสะท้านไปถึงสันหลังก้นกบเล็บขบไม่เกี่ยว โดยเฉพาะถ้าคุณปฏิบัติอย่างช้า ๆ และอ้อยอิ่งเริ่มจากเอียงศีรษะของคุณไปมาอย่างยั่วเย้า แต่ถ้าใครคอสั้นไม่ระหงอาจจะไม่เซ็กซี่อย่างที่คิดข้ามไปใช้ริมฝีปากของคุณสัมผัสทักทายเขาแค่เพียงเบา ๆ ใช้ปากนวดวนเบา ๆ ในทุกทิศทางจนมีความอบอุ่นแผ่ซ่าน ค่อย ๆ ใช้ปลายลิ้นของคุณเลียริมฝีปากของเขาเบา ๆ สลับกับการเป่าลมใส่เบา ๆ การถูไถริมฝีปากของคุณกับเขาอย่างนิ่มนวล เป็นทั้งการกระตุ้นและยั่วอารมณ์ได้ในคราวเดียวกันและมันเร้าอารมณ์ได้อย่างเหลือเชื่อ

4. จูบแบบสูบลมหายใจเดียวกันมันส์ถึงปอด

จูบชนิดนี้คือหนึ่งในขั้นสุดยอดแห่งไตรภาคการจุมพิตเพราะมันจะทำให้ใครคนหนึ่งแทบขาดใจตายทีเดียว ทั้งด้วยลีลาแบบอึ้งทึ่งถึงกึ๋น และด้วยหลักกายภาพอันแสนซาบซ่านและอาจใช้เป็นลีลา Finale ก่อนจากลาก็ได้สำหรับบางคู่ที่หมดเวลาดู๋ดี๋เริ่มจากใช้ปากต่อปากประกบกันแน่นจนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศรั่วไหลออกมาได้เลย จากนั้นก็ค่อย ๆ อ้าปากคุณขึ้นแล้วค่อย ๆ สูดลมหายใจให้เหมือนกับว่าดูดลมหายใจออกจากปอดของเขาอย่างนิ่มนวล จากนั้นให้เขาลองทำแบบเดียวกันกับคุณบ้างมันจะทำให้คุณสองคนรู้สึกเหมือนเป็นคนคนเดียวกันหายใจเข้าออกพร้อม ๆ กัน

หึง...อย่างมีชั้นเชิง


อาการหึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะของของใครใครก็ต้องหวงจริงไหมคะ รักมากก็ยิ่งหึงมากเป็นธรรมดา ผู้ชายก็เหมือนเสือไม่ทิ้งลาย ไว้ใจไม่ค่อยจะได้ ถ้ามีใครมาเข้าใกล้แฟนเราในระยะเกินงาม ใครกันจะทนไหว ทำให้สาว ๆ อย่างเราต้องจัดการให้อยู่หมัด แต่จะให้หึงหวงหัวฟัดหัวเหวี่ยงก็คงเสียฟอร์ม ลองมาดูวิธีหึงอย่างมีชั้นเชิงกันดีกว่านะ

หึงแบบไม่ไร้สติ อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเป็นอันขาด ไม่ว่าตอนนั้นคุณจะมีอารมณ์รุนแรงเพียงใด ให้สงบจิตสงบใจไว้ก่อน แล้วเรียกสติกลับคืนมา ลองวิธีการนับ 1-10 ช้า ๆ ถ้ายังไม่หายให้นับ 1 - 100 ไปเลยค่ะ แต่อย่าแสดงอาการออกนอกหน้า เดี๋ยวคู่กรณีของคุณจะได้ใจนะ

หยุดคิด ทบทวนถึงสถานภาพของคุณและเค้า ว่าตัวคุณเองมีสิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของมากแค่ไหน แล้วเรียกร้องให้เหมาะสมแบบไม่น่าเกลียดจนเกินงามนะคะ

อย่าเพิ่งแสดงออก บางครั้งถ้าคุณอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน เพิ่งจีบกันได้ไม่นาน ขอร้องเลยค่ะว่าอย่าแสดงอารมณ์หึงหวงหรืออาละวาดเป็นอันขาด เดี๋ยวอีกฝ่ายจะพลอยตกใจหนีกระเจิงไปซะก่อนนะ

ทำให้เขาเอ็นดู อย่าทำให้รู้สึกรำคาญ เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากได้แฟนอารมณ์ร้ายที่หน้าตาบึ้งตึงอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ แทนที่จะร้องโวยวาย เปลี่ยนเป็นการแสดงออกให้เค้ารู้สึกเห็นใจ และเห็นความสำคัญในตัวเราดีกว่านะคะ

ทดลองใจ ใช้ช่วงเวลานี้เรียกคะแนนความสงสารให้เต็มที่ เพื่อทำให้เค้าใจอ่อน ทั้งน้ำตาและคำพูดออดอ้อน บวกกับอาการงอนแบบน่ารักงุงงิ้ง ใส่มารยาร้อยเล่มเกวียนเข้าไป เพิ่มเสน่ห์ให้คุณเป็นสาวอ่อนโยนน่าหลงใหล เท่านี้ก็อยู่หมัด

อย่าแสดงอาการหึงท่ามกลางสาธารณชน เพราะมันอาจจะทำให้คุณกลายเป็นตัวตลกที่น่าสมเพชเวทนาในสายตาคนอื่น แถมยังน่าอับอายและกลายเป็นหัวข้อให้คนอื่นซุบซิบได้นะ

เก็บอารมณ์ ไม่ว่าคุณจะลำบากใจที่ต้องอดทนอดกลั้น แต่ขอให้เก็บอาการหึงไว้ก่อนแล้วค่อยมาคุยกันหลังไมค์ เพราะพวกผู้ชายไม่ชอบเสียหน้าหรือเสียฟอร์ม อย่าทำให้เค้าหวาดหวั่นกับอาการหึงหวงอย่างรุนแรงของคุณ

ดูจังหวะ ทำอะไรก็ต้องดูฤกษ์ดูยาม การหึงก็เช่นกันดูช่วงเวลาดี ๆ ที่เค้าไม่หัวเสียหรือวุ่นวายกับปัญหาอื่นอยู่ ตอนนั้นแหละเป็นโอกาสเหมาะ การหึงของคุณถึงจะประสบความสำเร็จแน่นอน

อย่าหึงพร่ำเพรื่อ อาการหึงอาจนำมา ซึ่งความรำคายและกลายเป็นเลิกราในที่สุดเดี๋ยวน้ำตาจะเช็ดหัวเข่านะคะ

ฝากไว้สำหรับสาวจอมขี้หึงทั้งหลาย เอาไว้เป็นไม้ตายออดอ้อนหนุ่ม ๆ เท่านี้อาการหึงแบบพอประมาณก็คงช่วยเพิ่มสีสันให้กับคุณได้ รักหรอกจึงหยอกเล่นนะ

อย.เตือน ยาฉีด filler ยี่ห้อ TEOSYAL

อย. เตือนผู้บริโภค อย่าหลงเชื่อการโฆษณายาฉีด filler ยี่ห้อ TEOSYAL เพื่อรักษาริ้วรอยบนใบหน้า เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียนตำรับยา ถือเป็นยาเถื่อน หากจะฉีดยาใดๆ ก็ตาม ควรสอบถามทุกครั้งว่ายาฉีดที่ใช้มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ และหากจะฉีดยา ควรฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น พร้อมเตือนมายัง ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์ผิวหนัง แพทย์ศัลยกรรม ที่ใช้ยาฉีดที่ไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียน ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ควรคำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรมในการประกอบการ หากตรวจพบมีโทษทั้งจำและปรับ

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่มีโฆษณาขายยาฉีด filler ยี่ห้อ “TEOSYAL” ปรากฏแพร่หลายอยู่ในขณะนี้ ตามคลินิกเสริมความงามและทางเว็บไซต์อวดสรรพคุณ ลดริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอเตือนมายังผู้ที่คิดจะใช้บริการยาฉีดนี้ให้ทราบว่า ยาฉีดยี่ห้อดังกล่าวถึงแม้มีการใช้ในต่างประเทศ แต่สำหรับ ในประเทศไทยยังไม่มีผู้ประกอบการมาขอขึ้นทะเบียนตำรับยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งหากเป็นยาเถื่อน อาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย และหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ นอกจากนี้ ขอเตือนมายังผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์ผิวหนัง แพทย์ศัลยกรรม แพทย์ด้านความงาม จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากมีการลักลอบนำเข้าหรือจำหน่ายยาฉีดที่ไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียนตำรับยาตามกฎหมาย จะถูกดำเนินคดี มีโทษทั้งจำและปรับ กรณีแพทย์เป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย จะถูกร้องเรียนไปยังแพทยสภาให้ดำเนินการเอาผิด ทางจรรยาบรรณแพทย์ต่อไป

อนึ่ง ในวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมกับตำรวจ บก.ปคบ. นำหมายค้นศาลแขวง พระนครใต้ ที่ ค.19/2554 เข้าตรวจค้น ทองหล่อ คลินิก เลขที่ 158/1 อาคารอเนกวานิช สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้าการเข้าค้นได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปซื้อบริการฉีด filler ยี่ห้อTEOSYAL และพบว่ามีการใช้ยาฉีดชนิดนี้จริง โดยผลการตรวจค้น พบยาฉีด filler ยี่ห้อ TEOSYAL หลากหลายรูปแบบ ที่อ้างแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก สร้างเรียวปากสวยอวบอิ่ม ลดริ้วรอยบนใบหน้า ซึ่งผลจากการตรวจสอบเป็นยาฉีด ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีความผิดในข้อหา ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกันนี้ ยังพบเครื่องสำอางบำรุงผิวที่ไม่มีฉลากภาษาไทย มีความผิดในข้อหา ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขอเตือนมายังเจ้าของเว็บไซต์ทุกราย รวมทั้ง คลินิกสถานเสริมความงามทุกแห่ง หรือแหล่งใดๆ ที่โฆษณาขายยาฉีด filler หรือยาใดๆ ก็ตาม ที่ไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย จะถูกดำเนินคดีอย่างเข้มงวด ที่สำคัญ ผู้ประกอบการควรมีคุณธรรม จริยธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมกันนี้ ปัจจุบันพบว่าสาวไทยส่วนใหญ่ชอบที่จะเข้ารับบริการเสริมความงามตามคลินิกหรือสถานเสริมความงามที่มีอยู่มากมายกันมากขึ้น โดยเฉพาะการรักษาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า การเสริมปากให้แลดูอวบอิ่ม การเสริมจมูก การทำให้หน้าขาว ใส เด้ง ฯลฯ ทำให้มีโฆษณาขายยาฉีด filler , ฉีดโบท็อกซ์ , ฉีดคอลลาเจน ฉีดกลูตาไธโอน และเครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย ผ่านทางเว็บไซต์ แผ่นพับ ติดหน้าร้านเสริมความงาม โดยไม่มีการขออนุญาตจาก อย. มาก่อน ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนโดยเฉพาะสาวๆ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ให้ระวังการเข้ารับบริการ หากจำเป็นต้องการที่จะใช้ยาฉีด ควรคำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุดโดยควรเลือกฉีดในคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำอยู่ ที่สำคัญ ควรสอบถามและขอดูตัวยาที่ใช้ว่ามีการอนุญาตขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจาก อย. หรือไม่ เพื่อให้ได้ยาที่มีคุณภาพมาตรฐาน หากฉีดยากับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือใช้ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และสถานที่ฉีดยาที่ไม่น่าเชื่อถือ ผลที่ได้อาจไม่คุ้ม เพราะหากเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น เกิดการอักเสบ อาการแพ้ต่างๆ นอกจากจะไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบแล้ว ยังอาจเสียเงินทองจำนวนมากในการรักษาร่างกายด้วย หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย หรือโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงผ่านทางสื่อต่างๆ สามารถร้องเรียนมายัง สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดที่พบ การกระทำความผิด หรือที่ บก.ปคบ. ตู้ ปณ.459 ปณศ.สามเสนใน พญาไท กทม.10400

เหตุผลดีๆ ที่ควรยิ้ม ^^


เมื่อเปรียบเทียบการยิ้มกับการแสดงสีหน้าแบบอื่น เช่น โกรธ เศร้า เคร่งขรึม วิตกกังวล ฯลฯ แล้ว จะพบว่าการยิ้มใช้กล้ามเนื้อใบหน้าน้อยกว่าการแสดงสีหน้าแบบอื่นมาก การยิ้มจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ใช้พลังงานน้อยกว่า และทำให้ใบหน้าดูดีกว่าการแสดงสีหน้าแบบอื่น ๆ ด้วย

- เพื่อให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าของคุณได้ทำงานซะบ้าง
- ถ้าคุณยิ้มให้เขา มีหรือเข้าจะไม่ยิ้มตอบคุณ
- อย่างน้อยคุณจะได้ให้เขาช่วยเตือนว่ามีเศษผักสีเขียวมรกต ยังคง สนุกสนานในปากคุณ
- การยิ้มเป็นการเริ่มต้นแห่งมิตรภาพที่ดีที่สุด
- ถ้าคุณไม่ยอมยิ้ม แล้วใครจะได้เห็นล่ะว่า คุณมีลักยิ้มที่น่ารักที่สุด
- เมื่อคุณทำผิดแล้วโดนจับได้ การแก้ตัวก็มีแต่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่การยิ้มเจื่อน ๆ แบบว่า แย่จัง!! คุณจะดูเหมือน พวกที่สำนึกผิด แล้วใครล่ะ จะกล้าโกรธคุณลง
- ยิ้มสวย ๆ จะทำให้คนหน้าตาธรรมดา ๆ ดูดีขึ้นจนน่าประหลาดใจ
- การยิ้มในวันที่อ่อนล้าหรือเซ็งสุด ๆ ในชีวิต จะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกดีขึ้น
- ถ้าคุณพูดไม่เก่ง ลีลาไม่เด็ด ให้ยิ้มมาก ๆ เป็นการชดเชย
- รอยยิ้มเป็นสัญญาณบอกใคร ๆ ว่าคุณพร้อมจะเปิดใจแล้ว
- ยิ้มดี ๆ เพียงครั้งเดียวดีกว่าคำพูดนับแสนคำ



ยิ้มเกิดขึ้นได้อย่างไร
รอยยิ้ม เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ 2 มัดใหญ่ คือ ไซโกเมติก เมเจอร์ ( Zygomatic major) ที่จะช่วยดึงมุมปากให้ยกขึ้นไปหาโหนกแก้ม และออร์บิคิวลาริส ออคิวไล (Orbicularis Oculi ) ที่จะช่วยดึงเนื้อแก้มและเบ้าตาให้ยกขึ้น

ยิ้มมีผลต่อร่างกายอย่างไร
จากการศึกษาพบว่า เมื่อกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนไหวจนเกิดเป็นรอยยิ้ม จะส่งผลทำให้โลหิตแดงที่ไปเลี้ยงสมองมีอุณหภูมิลดลง จะทำให้เกิดความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย ซึ่งจะตรงข้ามกับการทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ที่การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าจะทำให้สมองมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดความรู้สึกไม่สบาย นอกจากนี้ ในขณะที่คนเรายิ้ม หัวใจจะเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะผ่อนคลาย ต่อมหมวกไตจะทำงานน้อยลง ฮอร์โมนอะดรีนาลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดจะถูกขับออกมาน้อยลงด้วย การยิ้มจึงช่วยลดความเครียดได้

การยิ้มมีความสัมพันธ์กับความสุขอย่างไร
เป็นที่สงสัยกันมากว่า คนเรามีความสุขแล้วจึงยิ้ม หรือยิ้มก่อนแล้วจึงมีความสุข ทำให้นักวิชาการต้องทำการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ให้ถ่องแท้ลงไป และผลที่ได้ก็พบว่าเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง นั่นคือ เมื่อคนเรารู้สึกมีความสุข เราจะแสดงออกทางสีหน้าด้วยรอยยิ้ม แต่ก็มีบางคนเหมือนกันที่ชอบเก็บกดอารมณ์ของตน เวลามีความสุขก็ยังพยามบังคับสีหน้าให้ดูเคร่งขรึม ซึ่งต้องใช้กล้ามเนื้อใบหน้ามากกว่า เสียพลังงานมากกว่า และทำให้ไม่สามารถมีความสุขได้อย่างเต็มที่ในทางตรงข้าม แม้คนเราจะยังไม่รู้สึกมีความสุข แต่เมื่อยิ้มแล้วสักพัก จะรู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นและมีความสุขได้เช่นกัน

สารพันปัญหาสายตาผิดปกติ

คำถาม : ใส่แว่นตา ทำให้สายตาสั้นมากขึ้นหรือไม่
คำตอบ : ไม่ทำให้สายตาสั้นขึ้น สายตาจะสั้นมากขึ้นเองตามธรรมชาติของคนสายตาสั้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าใส่แว่นสายตาสั้นที่เกินกว่าค่าสายตาที่แท้จริงเป็นเวลานาน ก็จะทำให้มีสายตาสั้นมากขึ้นชั่วคราวจากแว่นตาที่ไม่ตรงนี้ได้ มักพบในเด็กที่ไม่ได้หยอดยาลดการเพ่งของตาก่อนการวัดเบอร์แว่นตา

คำถาม เป็นคนสายตาสั้นหรือเอียง แล้วใส่แว่นตา ทำให้สายตาสั้นหรือเอียงมากขึ้นหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพราะสายตาสั้น เอียง หรือยาว เป็นธรรมชาติของบุคคลนั้น ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ไม่เกี่ยวกับแว่นตา

คำถาม : นอนอ่านหนังสือ ทำให้สายตาเอียงหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพราะสายตาเอียงเป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละบุคคล ไม่เกี่ยวกับการนอนอ่านหนังสือ

คำถาม : อ่านหนังสือในที่แสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้ตาเสียหรือสายตาไม่ดีหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพียงแต่จะทำให้เห็นตัวหนังสือได้ไม่ชัดเจน และปวดเมื่อยล้าตาได้ง่าย

คำถาม : ดูโทรทัศน์ใกล้ไป ทำให้ตาเสียหรือไม่
คำตอบ : ไม่ เพียงแต่อาจจะไม่สบายตา คนที่ดูโทรทัศน์ใกล้ผิดปกติอาจจะเพราะว่าตามองเห็นไม่ชัดอยู่แล้วจึงต้องเข้าไปดูใกล้ๆ

คำถาม : ทำงานใช้คอมพิวเตอร์มาก ต้องใช้แว่นตากันแสงหรือแผ่นกรองแสงหรือเปล่า
คำตอบ : จอภาพคอมพิวเตอร์มีรังสีแผ่ออกมา แต่ปริมาณน้อยซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อตาและร่างกาย ปัจจุบันนี้จอคอมพิวเตอร์ก็ไม่ได้มีแสงสะท้อนจากจอมาก จึงไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตากันแสงหรือแผ่นกรองแสง

คำถาม : แว่นตาดำที่มีขายตามท้องตลาด อันละ 200 บาท ใช้ได้หรือไม่ กันแสง UV ได้ 99 % จริงหรือไม่
คำตอบ : ใช้กันแดดกันลมได้ อย่างน้อยก็ลดปริมาณแสงเข้าตาได้ส่วนหนึ่ง แต่กันแสง UV ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาได้ตามป้ายบอกไว้หรือไม่นั้น ไม่สามารถรู้ได้ต้องใช้เครื่องมือพิเศษตรวจ

คำถาม : ทำ LASIK ดีหรือไม่
คำตอบ : ดีครับ เหมาะสำหรับคนสายตาผิดปกติเช่น สั้น ยาว เอียง ที่ไม่ต้องการใส่แว่นตาและคอนแทคเลนส์ หรือเพื่อลดกำลังของแว่นตาลงจะได้ลดความหนาและน้ำหนักของแว่นตา ปัจจุบันเทคโนโลยีของเครื่องทำ LASIK พัฒนาขึ้นมากทำให้ผลการผ่าตัดแม่นยำ ภาวะแทรกซ้อนน้อย แต่อาจมีข้อด้อยบ้างในบางคนเช่นความคมชัดลดลงตอนกลางคืนเมื่อเทียบกับแว่นตา อย่างไรก็ตามการผ่าตัดทุกชนิดย่อมเสี่ยงที่จะมีภาวะแทรกซ้อนที่แม้จะมีโอกาสเกิดน้อยก็ตาม คงต้องชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่ได้ เช่นสะดวกในการเล่นกีฬา กิจกรรมบางประเภท ส่งเสริมในอาชีพการงาน กับข้อด้อยที่อาจมีได้รวมทั้งค่าใช้จ่าย โดยปกติแล้วจะมีการปรึกษาพูดคุยระหว่างแพทย์กับผู้สนใจเป็นอย่างดีก่อน รวมทั้งตรวจตาว่าเหมาะสมที่จะทำ LASIK ได้หรือไม่

คำถาม : อายุ 50 ปี อ่านหนังสือไม่ชัด ต้องใช้แว่นตาเวลาอ่านหนังสือ ทำ LASIK ได้หรือเปล่า จะได้ไม่ต้องใส่แว่นตาเวลาอ่านหนังสือ
คำตอบ : ได้ แต่ผลยังไม่ถึงขั้นน่าพอใจมาก ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้ทำ LASIK ในกรณีนี้ เพราะ LASIK เป็นการเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาดำ แต่ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไปจะเริ่มมีปัญหาเวลามองใกล้ซึ่งมีสาเหตุมาจากเลนส์ตาในลูกตาที่แข็งมากขึ้นตามอายุ เวลาดูใกล้เลนส์ตาจะกลมขึ้นเพื่อเพิ่มกำลังสายตาสำหรับดูใกล้ แต่พอเลนส์แข็งขึ้นทำให้คุณสมบัตินี้ลดลงเรื่อยๆ จนอายุประมาณ 40 ปี กำลังสายตาที่จะดูใกล้จะไม่เพียงพอจึงต้องยื่นหนังสือห่างจากตามากขึ้นจนต้องใช้แว่นสายตามาช่วยเพิ่มกำลังสายตา ซึ่งจะต้องเพิ่มกำลังแว่นตาขึ้นเรื่อยๆ ตามกำลังสายตาที่ลดลงจากเลนส์ตาที่แข็งขึ้น ดังนั้น LASIK ซึ่งแก้ปัญหาเฉพาะที่กระจกตาดำ จึงยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างน่าพอใจ จำเป็นต้องใช้แว่นตาเวลามองใกล้ แต่ในคนอายุน้อยจะยังไม่มีปัญหานี้ ทำ LASIK แล้วสามารถเห็นชัดทั้งใกล้และไกล

Business

Blog M