๑. โรคพิษสุนัขบ้า มีความเป็นมาอย่างไรโรคพิษสุนัขบ้า
เป็นโรคที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล
รูปในสมัยอียิปต์โบราณแสดงให้เห็นถึงคนถูกสุนัขกัด โรคนี้พบทั่วโลก
มีชื่อเรียกต่างกันตามภาษาท้องถิ่น แต่หมายถึง
โรคที่เกิดจากถูกหมาบ้ากัด
โรคพิษสุนัขบ้า
เป็นโรคที่พบได้ในสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดรวมทั้งค้างคาว
สัตว์ที่พบว่าเป็นโรคนี้บ่อยที่สุด คือ สุนัข ทั้งสุนัขบ้า สุนัขจิ้งจอก สุนัขบ้าน
รองลงมาคือ แมว แร็กคูน สกังก์
และค้างคาว
ค้างคาวที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าพบได้ทั้งในค้างคาวดูดเลือด (vampire)
ซึ่งมีอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ค้างคาวกินแมลงที่พบในอเมริกาเหนือและที่อื่นๆ
ค้างคาวอาจมีการติดเชื้อและเป็นพาหะโดยไม่มีอาการป่วย สำหรับสัตว์อื่นๆ
ยังถกเถียงว่า
มีการติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแล้วไม่ตายหรือไม่
ปัญหาสัตว์นำโรคพิษสุนัขบ้าแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคในประเทศไทยและในเอเชีย
พบว่า สุนัขเลี้ยงและสุนัขจรจัดเป็นโรคและนำเชื้อมาสู่คนบ่อยที่สุด รองลงมาคือ แมว
สำหรับหนูและค้างคาว เชื่อว่านำเชื้อโรคได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด
ผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าเกือบทั้งหมดให้ประวัติว่าถูกสุนัขกัด
ในยุโรปสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์นำโรคพิษสุนัขบ้าที่สำคัญแต่ในระยะ ๔-๕
ปีที่ผ่านมาควบคุมได้ โดยการโปรยวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าชนิดกิน
ให้สุนัขจิ้งจอกกิน
ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาพบปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าเพิ่มขึ้น
สัตว์นำโรคที่สำคัญ คือ แร็กคูน สกังก์ และค้างคาวกินแมลง
การใช้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าผสมในอาหารที่ใช้เป็นเหยื่อล่อให้แร็กคูนกิน
พบว่าให้ผลดี ในอเมริกาใต้ ปัญหาสัตว์นำเชื้อโรคนอกจากสุนัข แมว และสัตว์ป่าอื่นๆ
ยังมีค้างคาวดูดเลือดแพร่เชื้อให้วัวควาย ทำความเสียหายแก่คอกปศุสัตว์
๒. โรคพิษสุนัขบ้า
ติดต่ออย่างไรการติดต่อส่วนใหญ่ติดต่อจากสัตว์ที่มีเชื้อกัด หรือเลีย
หรือข่วน แล้วปล่อยเชื้อที่อยู่ในน้ำลายเข้าทางบาดแผล
ในธรรมชาติการติดต่อพบจากสัตว์ไปยังสัตว์ พบบ่อยในสุนัข พบได้ในสัตว์อื่นๆ
การติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากสัตว์มายังคนเป็นการบังเอิญ
ในธรรมชาติไมพบการติดต่อจากคนไปคน ในผู้ที่พยาบาลใกล้ชิดผู้ป่วย
ยังไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อแต่อย่างไรก็ดีสามารถแยกเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าได้จากน้ำลายผู้ป่วย
ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิด มีแผลหรือรอยถลอกสัมผัสกับน้ำลายผู้ป่วยอาจติดเชื้อ
การติดเชื้อจากคนไปสู่คนพบรายงานทางการแพทย์
เกิดจากการปลูกถ่ายกระจกตาที่ได้มาจากผู้บริจาคที่เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า
และมีรายงานการติดต่อทางการหายใจ
ในผู้ที่เข้าไปในถ้ำที่มีค้างคาวจำนวนมากและการสูดดมเชื้อไวรัสที่นำมาปั่นศึกษาวิจัยในห้องปฏิบัติการ
๓. ทำไมชาวบ้านเรียกว่า “โรคกลัวน้ำ”
โรคพิษสุนัขบ้ามีอีกชื่อหนึ่งว่า โรคกลัวน้ำหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า
ไฮโดรโฟเบีย (hydrophobia) เนื่องจากอาการเด่นชัดของโรคนี้ที่ต่างจากโรคอื่นๆ คือ
ผู้ป่วยจะมีอาการเกร็งเจ็บปวดกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนของเหลวทำให้ไม่กล้าดื่มน้ำ
ไม่กล้ากลืนน้ำลาย แม้ว่าจะหิวน้ำ และจะแสดงอาการกลัวไม่กล้าดื่มน้ำ
แต่อาจกินอาหารแข็งได้บ้าง ลักษณะอาการโรคที่สำคัญ คือ
ระยะแรก
จะเริ่มด้วยไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คันหรือเสียว บริเวณแผลที่เคยถูกสัตว์กัด
อาการที่ชัดเจนในระยะต่อมา คือ น้ำลายและเหงื่อออกมาก กระวนกระวาย สะดุ้ง ตกใจ
เมื่อมีสิ่งเร้า เช่น ลมพัด เสียงดัง
มีอาการคลุ้มคลั่งสลับกับสติดีโต้ตอบได้เป็นระยะ
ระยะสุดท้าย
จะไม่รู้สึกตัว อาจชักหรือหมดสติ ส่วนใหญ่เสียชีวิตในเวลาไม่เกิน ๗
วันหลังจากแสดงอาการ ผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการดุร้ายคลุ้มคลั่งชัดเจน
แต่มีอาการซึม อัมพาต และเสียชีวิต อาการโรคพิษสุนัขบ้าที่พบในคนและสัตว์มี ๒ แบบ
คือ แบบดุร้าย แสดงอาการชัดเจน และแบบซึม อาการไม่ชัด
และเสียชีวิตในเวลารวดเร็ว
๔. ทำไมโรคนี้ถึงระบาดในฤดูร้อน
ในฤดูอื่นจะมีโอกาสได้รับเชื้อโรคนี้หรือไม่โรคพิษสุนัขบ้าในคนและสัตว์
พบได้ตลอดปี แต่จะมีผู้ถูกสุนัขกัด ต้องมาฉีดวัคซีนมากในฤดูร้อน
เนื่องจากเด็กปิดภาคเรียน เที่ยวเล่นและสุนัขผสมพันธุ์เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
จะคลอดลูกอ่อนราวเดือนมีนาคม-เมษายน
ในหน้าผสมพันธุ์สุนัขจะกัดกันมากกว่าฤดูอื่นจึงได้รับเชื้อ
เมื่อเข้าฤดูร้อนพอดีครบระยะฟักตัว จะแสดงอาการ
ลูกสุนัขจะมีโอกาสเป็นพิษสุนัขบ้ามากกว่าสุนัขโต
และแม่สุนัขจะหวงลูกอ่อนกัดคนมากขึ้น
๕.
ผู้ป่วยโรคนี้จะสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่ผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้า
แสดงอาการป่วยเมื่อเชื้อไวรัสเดินทางจากบริเวณบาดแผลเข้าไปตามแขนงประสาทเข้าไปยังเซลล์ประสาท
เชื้อเพิ่มจำนวนทำลายเซลล์ประสาทเมื่อแสดงอาการโรค จะไม่สามารถรักษาให้หายได้
ผู้ป่วยเสียชีวิตทุกราย ยกเว้นในรายงานผู้ป่วย ๓ ราย ที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อน
และได้รับการดูแลเต็มที่ แม้จะไม่เสียชีวิตแต่ก็พบความพิการเป็นอัมพาต
๖.
โรคนี้สามารถป้องกันได้หรือไม่โรคพิษสุนัขบ้าสามารถป้องกันได้
วิธีที่ได้ผลที่สุด แต่ยังทำไม่สำเร็จในขณะนี้ คือ ฉีดวัคซีนให้กับสุนัขเลี้ยงทุกปี
ในผู้ที่มีโอกาสถูกสัตว์ที่เป็นโรคนี้กัด ควรฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไว้ก่อน
โดยฉีดเพียง ๓ เข็ม ฉีดวัคซีนสองเข็มแรกห่างกัน ๑ เดือน และเข็มที่ ๓ เมื่อครบ ๑ ปี
ถ้าถูกสัตว์สงสัยว่ามีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด ให้ฉีดกระตุ้นซ้ำ ๑ หรือ ๒
เข็มก็เพียงพอ ไม่ต้องฉีดเซรุ่ม
๗.
ผู้ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าแสดงอาการหลังถูกสัตว์กัดนานเท่าใดระยะเวลาตั้งแต่ถูกสัตว์กัดจนกระทั่งแสดงอาการโรคพิษสุนัขบ้า
เรียกว่า ระยะฟักตัว เร็วที่สุด คือ ๗ วัน ช้าที่สุดไม่เกิน ๑ ปี
ส่วนใหญ่แสดงอาการในเวลา ๓ สัปดาห์ ถึง ๓ เดือนหลังถูกสัตว์กัด ถ้าถูกกัดบาด
แผลฉกรรจ์ บริเวณใกล้ศีรษะ ใบหน้าหรือบริเวณที่มีเส้นประสาทมาก เช่น นิ้วมือ
จะมีระยะฟักตัวสั้น ถ้าถูกกัดบาดแผลไม่รุนแรง บริเวณขาหรือร่างกายส่วนล่าง
จะมีระยะฟักตัวยาว
๘. ถ้าโดนสุนัขหรือสัตว์อื่นกัด
ควรทำอย่างไรเป็นอันดับแรกถ้ามีบาดแผลจากการถูกสัตว์กัด
ให้บีบเลือดออกให้มากที่สุด ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ฟองสบู่หรือผงซักฟอก ล้างหลายๆ
ครั้งเพื่อให้น้ำลายและเชื้อที่ได้รับเข้าไปออกให้มากที่สุด แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น
เบตาดีน ถ้าแผลฉกรรจ์ หรือสงสัยว่าสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้า
รีบไปพบแพทย์เร็วที่สุดเพื่อแพทย์จะได้ทำแผลและล้างแผลอย่างเหมาะสม
และฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
วัคซีนและเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในรายที่มีข้อสงสัยว่าสัตว์อาจมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
๙. เคยได้ยินว่าการล้างแผลด้วยสบู่ทันทีที่ถูกสัตว์กัดจะฆ่าเชื้อนี้ได้
จริงหรือไม่การล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ทันทีจะช่วยล้างน้ำลายและเชื้อต่าง
ๆ ออกจากบาดแผลได้ แต่ฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโดยตรงคงจะมีน้อยมาก
เชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าเมื่ออยู่นอกร่างกายจะตายง่าย อย่างไรก็ดี ถ้าบาดแผลลึก
แผลเหวอะหวะ ไม่สามารถล้างแผลได้เอง
ควรรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อล้างแผลด้วยน้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อ
๑๐. หากโดนสัตว์กัด จำเป็นต้องนำสัตว์มาตรวจหรือไม่
และหากไม่สามารถนำสัตว์นั้นมาตรวจได้ ควรทำอย่างไรการตรวจสัตว์
จะมีประโยชน์ในการที่ทราบว่าสัตว์เป็นโรคหรือไม่
เพื่อวางแผนในการให้วัคซีนและเซรุ่มแก่ผู้ถูกกัด
ถ้าสัตว์เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อนและป่วยตาย
จะได้ตรวจสอบคุณภาพของวัคซีน ถ้านำสัตว์มาตรวจไม่ได้
แพทย์จะตัดสินใจให้วัคซีนโดยเร็วที่สุดในรายที่สงสัยว่าสัตว์อาจมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
ถ้ามีบาดแผลฉกรรจ์จะให้เซรุ่มร่วมด้วย
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่จำเป็นเหมือนสมัยโบราณ สมัยก่อนใช้วัคซีนจากสมองสัตว์
ต้องฉีดติดต่อกัน ๑๗-๒๑ เข็ม ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นไม่ดี
อาการแทรกซ้อนพบได้บ่อยและรุนแรง ถ้าไม่จำเป็น
หรือสัตว์ที่กัดไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ก็จะไม่ฉีดวัคซีนให้ ในปัจจุบันวัคซีนปลอดภัย
คุณภาพดี แต่มีราคาแพง ถ้าสงสัยว่าสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้า
จะฉีดให้เร็วที่สุดทันที
๑๑. วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามีกี่ชนิด
อะไรบ้างวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของคน
ขณะนี้เป็นวัคซีนบริสุทธิ์ที่ผลิตจากเซลล์เพาะเลี้ยงและไข่เป็ดฟัก
มีคุณภาพสูงกว่าวัคซีนผลิตจากสมองสัตว์ที่เคยใช้ในสมัยก่อน
วัคซีนจากสมองสัตว์เลิกใช้ในประเทศไทย ตั้งแต่ ปี
พ.ศ.๒๕๓๕
วัคซีนที่มีจำหน่ายขณะนี้มี ๔ ชนิด คือ
๑. วัคซีนฮิวแมน
ดิพลอยด์ (human diploid rabies vaccine) ผลิตจากเซลล์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อปอดคน
ราคาประมาณเข็มละ ๖๖๐ บาท ฉีดทั้งชุด ๕ เข็ม
๒. วัคซีนพีซีอีซี (PCEC)
ผลิตจากเซลล์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อลูกไก่
๓. วัคซีนเวโร (vero cell rabies
vaccine) ผลิตจากเซลล์เพาะเลี้ยงต่อเนื่องที่ชื่อว่า เซลล์เวโร
มีต้นกำเนิดจากไตลิง
๔. วัคซีนบริสุทธิ์ผลิตจากตัวอ่อนไข่เป็ดฟัก (purified
duck emberyo rabies vaccine)
วัคซีนทั้ง ๓ ชนิดหลังนี้ราคาประมาณเข็มละ ๒๒๐ บาท ฉีดทั้งชุด ๔ เข็ม
สำหรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ฉีดในสุนัข เตรียมจากเซลล์เพาะเลี้ยง
แต่มีมาตรฐานการผลิตแตกต่างจากวัคซีนที่ใช้ในคน
๑๒. เมื่อไหร่ควรฉีดวัคซีน หรือเมื่อไหร่ควรฉีดเซรุ่ม
วัคซีนและเซรุ่มใช้แทนกันได้หรือไม่วัคซีนและเซรุ่มใช้แทนกันไม่ได้
แต่จะให้เซรุ่มเสริมร่วมกับฉีดวัคซีนโดยฉีดวันเดียวกับวัคซีน
ในผู้ที่ถูกกัดบาดแผลฉกรรจ์ ระยะฟักตัวจะสั้น
วัคซีนไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้องใช้เวลา ๗-๑๔ วัน จึงจะพบแอนติบอดีที่จะคุ้มกันได้
ในกรณีเช่นนี้ จะต้องฉีดเซรุ่มซึ่งมีแอนติบอดีอยู่แล้วให้เร็วที่สุด เซรุ่มที่ใช้มี
๒ ชนิด คือ เตรียมจากเลือดม้า เรียกว่า
อีริก (ERIG, Equine
rabies immune globulin) และเตรียมจากเลือดคน เรียกว่า
เอชริก
(HRIG, Human rabies immune globulin) เตรียมโดยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
ให้ม้าหรือคนก่อนแล้วเจาะเลือดที่มีแอนติบดีมาเตรียมเซรุ่ม
เพื่อนำมาใช้ในการดูแลรักษาในรายที่เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว เมื่อฉีดวัคซีนซ้ำ
จะพบแอนติบอดีได้เร็วจึงไม่จำเป็นต้องฉีดเซรุ่ม
๑๓. ถ้าหากเคยได้รับวัคซีนแล้วและถูกสัตว์กัดซ้ำอีก
จำเป็นต้องฉีดวัคซีนหรือไม่วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าต้องฉีดเป็นชุด ชุดละ
๕ เข็ม ในวันแรก , วันที่ ๓ , วันที ๗, วันที่ ๑๔ และวันที่ ๒๔
ถ้าถูกกัดในระหว่างฉีดวัคซีน ๕ เข็มนี้ ก็ไม่ต้องฉีดเพิ่มอีก แต่ถ้าถูกกัดภายใน ๖
เดือน หลังฉีดเข็มสุดท้าย ควรฉีดเพิ่มเร็วที่สุดหลังถูกกัดอีก ๑ เข็ม ถ้าเกิน ๖
เดือน ให้ฉีด ๒ เข็ม โดยฉีดเข็มแรกเร็วที่สุดถูกกัด และฉีดเพิ่มอีก ๑ เข็ม ในวันที
๓ หลังฉีดเข็มแรก ในกรณีที่เคยฉีดวัคซีนมาก่อนไม่ต้องฉีดเซรุ่ม
๑๔. ถ้าสุนัขตัวที่กัดไม่ได้เป็นโรคนี่
แต่เราไปฉีดวัคซีนจะเป็นอะไรหรือเปล่าวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ใช้ในปัจจุบัน
คุณภาพดี ปลอดภัยแม้ว่าสุนัขตัวที่กัดจะไม่เป็นโรคก็ไม่เป็นไร
นอกจากต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีน
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า
๑๕.
วัคซีนที่ฉีดจะคงอยู่ในร่างกายได้นานแค่ไหนวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า
เป็นวัคซีนเชื้อตาย เมื่อฉีดครบชุดแล้ว ภูมิคุ้มกันจะสูงอยู่ในระยะหลังฉีด ๒
สัปดาห์ – ๓ เดือน แล้วเริ่มลดระดับลงต้องฉีดกระตุ้นอีก ๑ – ๒ เข็ม
จึงจะทำให้ภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูงแล้วก็จะลดลดอีก ดังนั้น ถ้าถูกกัดบ่อย ๆ
ก็ต้องฉีดทุกครั้งที่ถูกกัด แต่ลดจำนวนเหลือเพียง ๑ – ๒ เข็ม
และไม่ต้องฉีดเซรุ่ม
๑๖. วัคซีนและเซรุ่มนี้มีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่
และมีข้อควรระวังอย่างไรวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าชนิดบริสุทธิ์
มีผลข้างเคียงน้องมาก เช่น เจ็บบริเวณฉีด รู้สึกไม่ใคร่สบายส่วนใหญ่หายเอง
ถ้าถูกสุนัขหรือสัตว์สงสัยว่าเป็นโรคนี้กัด ก็ต้องฉีดวัคซีนเร็วที่สุด
ไม่มีข้อห้ามใดๆ ทั้งสิ้น สตรีตั้งครรภ์ หรือผู้ติดเชื้อเอดส์ ผู้ป่วยโรคตับแข็ง
ก็ต้องฉีด โดยแพทย์ให้การดูแลเป็นพิเศษให้แน่ใจว่ามีภูมิคุ้มกันเพียงพอป้องกันโรค
ส่วนเซรุ่มอาจมีอาการแพ้ได้แต่พบไม่บ่อยนัก สำหรับเซรุ่ม ชนิดที่เตรียมจากเลือดม้า
แพทย์อาจจำเป็นต้องทำการทดสอบก่อนฉีดว่ามีโอกาสแพ้หรือไม่
ส่วนเซรุ่มที่เตรียมจากเลือดคนจะใช้ได้ปลอดภัย ไม่จำเป็นทดสอบก่อนฉีด
ผลข้างเคียงอาจพบได้บ้าง คือ อาการไข้ หรือเจ็บบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย
ซึ่งไม่พบอันตรายและจะหายไปได้เอง